แชมป์บอลโลกแต่ละปี อัพเดตใหม่ล่าสุด อย่างละเอียด

ฟุตบอลโลก 1930 ฟุตบอลโลกครั้งแรกที่มีการจัดการแข่งขันขึ้น จัดขึ้นที่ประเทศอุรุกวัย ในการแข่งขันครั้งนี้จะไม่มีการคัดเลือก แต่จะเป็นการเชิญของฟีฟ่าให้มาเตะกัน และทีมแรกที่ได้แชมป์ไปนั่นก็คือทีมชาติอุรุกวัย เจ้าภาพบอลโลกในครั้งนี้นั่นเอง โดยเอาชนะอาร์เจนตินาไปด้วยสกอร์ 4 – 2 และดาวยิงสูงสุดก็คือกิเยร์โม สตาบิเล่ ทีมชาติอุรุกวัย ที่ยิงไปถึง 8 ประตู

ฟุตบอลโลก 1934 และการแข่งขันครั้งที่ 2 ประเทศที่ได้จัดตั้งว่าเป็นเจ้าภาพนั่นก็คือประเทศอิตาลี เพราะได้ถูกเลือกจากประธานฟีฟ่าในเวลานั้น และเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่มีรอบคัดเลือก และทีมที่เข้ารอบชิงในการแข่งขันครั้งนี้นั่นก็คือทีมชาติอิตาลีและเชโกสโลวาเกีย และอิตาลีก็ชนะไปด้วยสกอร์ 2 – 1 เป็นครั้งที่สองที่ทีมเจ้าบ้านคว้าแชมป์ไป แม้เกือบจะแพ้เพราะกว่าประตูตีเสมอจะมาก็ปาไปในนาทีที่ 81แล้ว และก็มายิงขึ้นนำได้ในนาทีที่ 95 และคว้าชัยชนะไป โดยนักเตะที่ทำประตูมากที่สุดในการแข่งขันนั่นก็คือโอลด์ริช นีเยดลี่จากทีมชาติเชโกสโลวาเกีย และทำไปถึง 5 ประตูในการแข่งขันครั้งนี้

ฟุตบอลโลก 1938 และการแข่งขันครั้งนี้ก็เป็นการแข่งขันที่จัดในประเทศฝรั่งเศส แต่ครั้งนี้แตกต่างไปจากสองครั้งก่อน โดยที่ทีมเจ้าบ้านอย่างฝรั่งเศสไม่สามารถเข้าชิงได้ ไม่สามารถเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายได้ด้วยซ้ำ และทีมที่เข้าสู่รอบชิงนั้นก็คือทีมชาติอิตาลีและฮังการี และทีมแชมป์เก่าอย่างอิตาลีก็สามารถเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4 – 2 และสามารถป้องกันแชมป์ได้ครั้งแรก และผู้ทำประตูมากสุดในปีนี้นั่นก็คือ เลโอไนดาส ที่ทำไปถึง 7 ประตู และพาทีมรับรางวัลรองแชมป์อันดับ 2 ไปได้ในที่สุด

ฟุตบอลโลก 1950 การแข่งขันบอลโลกในปีนี้ เป็นการแข่งขันหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง จึงทำให้ข้ามปี ค.ศ. 1942 และ ค.ศ. 1946 และมาเริ่มการแข่งขันในปีนี้แทน เป็นการแข่งขันบอลโลกครั้งที่ 4 และเจ้าภาพก็คือทีมชาติบราซิล และสามารถเข้าชิงได้โดยที่ต้องเจกับทีมชาติอุรุกวัย แต่ก็พ่ายแพ้แชมป์เก่าไปด้วยสกอร์ 1 – 2 ทำให้ทีมชาติอุรุกวัย ถลุงแชมป์ไปถึงสองสมัยเท่ากับทีมชาติอิตาลีในเวลานั้น และดาวยิงสูงสุดในการแข่งขันครั้งนั้นก็คือ อาเมียร์ เดอ เมเนเซส จากทีมชาติบราซิล โดยทำไปถึง 8 ประตูแต่ก็ทำได้เพียงรองแชมป์ในการแข่งขันเพียงเท่านั้น

ฟุตบอลโลก 1954 โดยมีประเทศเจ้าบ้านเป็นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ การแข่งขันบอลโลกครั้งที่ 5 เป็นทีมชาติเยอรมนีตะวันตกที่เข้ารอบไปเจอกับทีมชาติฮังการีที่เคยเข้ารอบมาแล้วหนึ่งครั้ง แต่ก็พ่ายเยอรมนีตะวันตกไปด้วยสกอร์ 3 – 2 และก็เป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกของทีมชาติเยอรมนีตะวันตก ซานดอร์ โคชิส คือชื่อของตำนานทีมชาติฮังการี และในการแข่งขันครั้งนี้เขาทำไปถึง 11 ประตู ถือว่าเยอะกว่าที่เคยมีมาในการแข่งขันบอลโลก แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ทีมคว้าแชมป์ได้

ฟุตบอลโลก 1958 และการแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นที่ประเทศสวีเดน เป็นปีที่แจ้งเกิดนักเตะอายุ 17 ปี ของทีมชาติบราซิลอย่าง เปเล่ ที่โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเวลานั้น และชนะทีมเจ้าบ้านไปอย่างดุดันถึง 5 – 2 ประตู ทำให้คว้าแชมป์ครั้งแรกในการแข่งขันนี้ ทั้งยังมี จัสต์ ฟองเตง กองหน้าของฝรั่งเศสที่ยิงประตูไปถึง 13 ประตู ทำลายสถิติของซานดอร์ โคชิส ที่ทำไว้ 11 ประตู เป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่เคยมีมาจนถึงปัจจุบันนี้ และยังเป็นจุดกำเนิดผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมอย่าง เลฟ ยาชิน ตำนานที่ถึงกับต้องนำมาตั้งเป็นชื่อรางวัลในปัจจุบันกันเลยทีเดียว

ฟุตบอลโลก 1962 เป็นการแข่งขันครั้งที่ 7 และเป็นประเทศชิลีที่ได้เป็นเจ้าภาพ และเป็นการแข่งขันที่เป็นการฉลองแชมป์ครั้งที่สองของบราซิล และเป็นการผิดหวังครั้งที่สองของทีมชาติเชโกสโลวาเกีย โดยครั้งนี้ทีมบราซิลชนะไป 3 – 1 และมีดาวซัลโวร่วมกันถึง 6 คน โดยที่ทำประตูไปเท่ากันที่ 4 ประตูประกอบด้วย การ์รินชา , วาวา , ลีโอเนล ซานเชซ , ดราซาน แยร์โควิช , ฟลอร็อง อัลแบร์ , วาเลนติน อิวานอฟ 

ฟุตบอลโลก 1966 การแข่งขันครั้งที่ 8 และเป็นการเป็นเจ้าบ้านของอังกฤษครั้งแรก และก็สามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้ได้โดยการเอาชนะทีมชาติเยอมนีตะวันตกไปได้ด้วยสกอร์ 4 – 2 ด้วยการต่อเวลาพิเศษ และดาวซัลโวของการแข่งขันครั้งนี้นั่นก็คือ เอวแซบียู จากทีมชาตโปรตุเกส และได้ทำไปถึง 9 ประตู

ฟุตบอลโลก 1970 เป็นการแข่งขันครั้งที่ 9 และจัดการแข่งขันที่เม็กซิโก และทีมที่ชนะไปนั่นก็คือทีมชาติ บราซิล ทำให้เป็นทีมแรกที่ทำการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกไปถึง 3 ครั้ง และทำการชนะทีมชาติอิตาลีด้วยสกอร์ 3 – 1 ทีมที่คว้าแชมป์มา 2 ครั้งเท่ากันและพวกเขาก็เริ่มนับถ้วยแชมป์ห่างจากทีมอื่นไปเรื่อยๆ และดาวซัลโวในครั้งนี้คือ  แกร์ท มึลเลอร์ ที่ทำไปถึง 10 ประตู

ฟุตบอลโลก 1974 การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นที่เยอรมนีตะวันตก และทีมที่คว้าแชมป์ก็เป็นเจ้าบ้าน ที่เอาชนะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ไปด้วยสกอร์ 2 – 1 เป็นการฉลองแชมป์ครั้งที่สองของพวกเขา

ฟุตบอลโลก 1978 การแข่งขันครั้งที่ 11 นี้เป็นทีมชาติฟ้าขาวอย่างอาร์เจนตินาที่ได้เป็นเจ้าบ้านและได้แชมป์ปีนั้นไปครอง เป็นครั้งแรกของชาติอีกด้วย โดยชนะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่เข้าชิง 2 ครั้งติดไป 3-1 

ฟุตบอลโลก 1982 ครั้งที่ 12 เป็นการแข่งขันในประเทศชาติสเปน และเป็นการเข้าชิงของเยอรมันนีตะวันตกกับอิตาลี โดยเป็นทีมอิตาลีที่เอาชนะไปได้ทำให้มีแชมป์เท่ากับบราซิลที่ 3 สมัย 

ฟุตบอลโลก 1986 การแข่งขันครั้งที่ 13 เป็นการแข่งขันที่เม็กซิโกเดิมทีต้องเป็นประเทศโคลอมเบีย แต่ด้วยปัญหาการเงินจึงต้องเปลี่ยนประเทศ และทีมที่ได้แชมป์ไปนั่นก็คืออาร์เจนตินา เป็นการฉลองแชมป์ครั้งที่ 2 โดยการเอาชนะเยอรมันนีตะวันตก ไปได้ด้วยสกอร์ 3 – 2

ฟุตบอลโลก 1990 เป็นการแข่งขันครั้งที่ 14 ของการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยทีมเจ้าภาพคือทีมชาติอิตาลีและก็เป็นทีมชาติเยอรมันตะวันตกที่เอาชนะอาร์เจนตินาได้ด้วยสกอร์ 1 – 0 ทำให้ครองตำแหน่งแชมป์เป็นครั้งที่ 3 เท่ากับอิตาลีและบราซิล

ฟุตบอลโลก 1994 เป็นการจัดการแข่งขันที่ประเทศสหรัฐ และทีมที่ได้แชมป์ในครั้งนี้คือทีมชาติบราซิลที่เข้าไปชิงกับอิตาลี และก็ชนะไปได้และก็สามารถคว้าแชมป์ครั้งที่ 4 ได้ 

ฟุตบอลโลก 1998 เป็นการแข่งขันครั้งที่ 16 และเป็นทีมชาติฝรั่งเศสที่คว้าแชมป์ได้ อีกทั้งยังเป็นทีมเจ้าบ้านอีกด้วย และเป็นแชมป์แรกของพวกเขาอีกด้วย

ฟุตบอลโลก 2002 การแข่งขันที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีเป็นเจ้าภาพร่วมกัน และมีเรื่องราวมากมายทั้งเรื่องการโกงของเกาหลี ทำให้อิตาลีแบนคนชาตินี้มาอย่างยาวนาน และปีนี้ก็เป็นการฉีดห่างจากการเป็นเจ้าบอลโลกนำห่างจากทีมอื่นไปเป็น 5 สมัย

ฟุตบอลโลก 2006 เป็นการกลับมาเล่นในยุโรปอีกครั้งในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และทีมที่ได้แชมป์ไปก็คือทีมอิตาลี เป็นการชนะในสมัยที่ 4 และตามบราซิลเพียง 1 ถ้วย จากการชนะฝรั่งเศสด้วยการยิงจุดโทษ

ฟุตบอลโลก 2010 เป็นการแข่งขันครั้งที่ 19 ที่แอฟริกาใต้ และเป็นการชนะครั้งแรกโดยทีมชาติสเปนในยุคที่ดีที่สุดของสเปน และไม่มีกองหน้าธรรมชาติฟอร์มดีในทีม แต่ก็สามารถเอาชนะได้และยังสานต่อไปถึงแชมป์ยูโรอีกด้วย

ฟุตบอลโลก 2014 เป็นการแข่งขันที่ประเทศบราซิล และเยอรมันก็สามารถเอาชนะบราซิลได้ด้วยการถล่มไปถึง 7 – 1 และเอาชนะอาร์เจนตินาไปด้วยสกอร์ 1 – 0 ด้วยประตูของมาริโอ กัสเซ่และทำแชมป์เป็นสมัยที่ 4 ตามบลาซิลเพียง 1 ครั้ง 

ฟุตบอลโลก 2018 เป็นการแข่งขันรอบล่าสุดที่เกิดขึ้น และทีมที่ได้คว้าแชมป์เป็นทีมชาติฝรั่งเศส ที่ไปแข่งกันที่รัสเซีย และเป็นทีมชาติฝรั่งเศสที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการนำทัพของเอมบับเป้และกรีซมัน ทั้งสองก็ยังคงอยู่ในทีมที่จะลงแข่งใน 2022 ด้วยเช่นกัน